สวัสดีครับ แอดแมววันนี้จะเล่าเรื่องรายละเอียด “ภาพรวม” ของ Toyota Innova Zenix ก่อนที่จะกลับไปเล่าเรื่องประกันภัยรถยนต์กันอีกสักรอบ
Innova Zenix เป็นรถยนต์ที่โดดออกจากโครงการ IMV หรือการแชร์แพลตฟอร์มกับ Fortuner และ Hilux ใส่เครื่องกระบะขับหลัง มันจบไปแล้ว ก้าวไปสู่การเป็น TNGA-C Platform หรือเอาง่ายๆ ก็คือ “นุ่มสบายแบบเก๋ง แต่คงอรรถประโยชน์รถ MPV 7 ที่นั่ง ที่ตลาดอินโดนีเซียต้องการ”
Zenix เป็นรถที่ยาวประมาณ 4.8 เมตร กว้าง 1.8 เมตรนิดๆ และสูงประมาณ 1.7 เมตร ด้วย Ground Clearance ที่เหมือนจะต่ำกว่าตัวเก่าเล็กน้อย แต่ขนาดตัวใหญ่ขึ้น โดยมีจุดที่แตกต่างกับ Innova Crysta เจนเก่า ชัดเจน 4 ด้าน
พอไม่ได้เป็นบอดี้ออนเฟรมและไม่ได้ขับหลัง อุโมงค์กลางไม่มี การจัดสรรที่นั่งและอื่นๆ “รถไม่ได้เตี้ยลง แต่เข้าออกง่ายขึ้น” เดินทะลุไปแถวสามง่าย แอดแมวสูง 174 ซม. สามารถก้าวตัวขึ้นเบาะคนขับได้แบบไม่ต้องพยายามโหน ซึ่งพูดง่ายๆ ว่า ทำให้ “คนตัวเล็กในบ้าน” สบายขึ้นเช่นกัน
นอกจากพื้นรถและที่นั่งที่ดีขึ้นชัดเจน เบาะแถวสองยังมาพร้อมไฮไลต์ปรับที่รองเข่าแบบไฟฟ้า (ในตัวทอปที่เป็น Captain Seat) และยังมีมูนรูฟที่ปรับม่านไฟฟ้า
ถามว่าขึ้นลงสบายขนาด KIA Grand Carnival ทั้ง GC3 และ 4 ไหม แอดว่าตัวนั้นสะดวกกว่า (และแพงกว่า 7 แสนอัพ ไม่นับตัว LX ที่ออพชั่นเหี้ยนแต่ถูกลงนิดเดียว ถถถ) เบาะแถวสามแอดแมวซึ่งตัวไซส์ๆ ลูกหมี นั่งได้! นั่งแบบกล้าบอกว่าเข่าชันน้อย แค่ปีนเข้ายากนิดนึงถ้ารอบเอวคุณเกิน 35 นิ้ว ควรให้สาวๆ ตัวบางหน่อย หรือคนที่สูงไม่เกิน 170 นั่งจะเหมาะกว่า
ออพชั่นใหม่ใส่ใจการใช้งานมากขึ้น (แต่ถาดวางโน้ตบุ๊คเบาะแถวสองหายไป) คือมีเท่าที่คนปกติใช้ ไม่ได้เว่อร์ ไม่ได้เยอะ ทั้ง Active/Passive Safety และ Accessories ก็มีแบบพอเหมาะพอควร ไม่ว่าจะเป็นฟรอนท์ที่รองรับฟีเจอร์โตโยต้ารุ่นใหม่ครบๆ ระบบ Lane Keeping Assist, ไปจนถึง Cruise Control และกล้องรอบคันตามมาตรฐานรถ 2020+ ที่คนเรียกร้อง
ส่วนหนึ่งที่แอดต้องบอกว่ามันยัดออพชั่นขนาดนี้ได้ นอกจากประเด็นการประกอบอินโดที่เป็นภาษีอาเซียนแล้ว คุณต้องไม่ลืมว่า เอาจริงๆ นะ ต้นทุน “ฐานกระบะ” มันสูงกว่าเก๋งครับ ไม่ว่าจะด้วยเหล็กหรืออะไรก็ตาม เพียงแต่บ้านเราใช้ยุทธการภาษีช่วยเหลือทั้งรถประกอบพื้นฐานกระบะ (บนเงื่อนไข PPV ที่ผู้ประกอบรถยนต์ต้องมีตัวช่วงสั้นทำขาย ฯลฯ) หรือการตีความภาษีสรรพสามิต ซึ่งไม่แปลกว่าพอลดต้นทุนตรงนี้ได้ ก็สามารถยัดออพชั่นต่างๆ ได้มากกว่า Innova Crysta มาก โดยเฉพาะในฐานะรถนำเข้าที่ต้นทุนการผลิตและประกอบไปอยู่ที่อินโดนีเซีย
วัสดุภายใน “ไม่ดีไม่แย่” คือไม่ได้หรูหราหนังดีเลิศจับสัมผัสนุ่ม แต่ก็ไม่ได้ดูเชยเหมือน Terra เจนแรกที่ไม่ต่างอะไรกับกระบะ มันดูสไตล์ๆ รถ MPV แบบ JDM ยุค 2010+ อย่าง Honda STEPWGN หรือทรงๆ นั้น หรือถ้าคุณจะใจร้ายหน่อยก็อาจจะบอกว่ามันดีไซน์ออกมาเหมือน Commuter 2.8 เลย (ถถถ)
ซึ่งแอดอยากบอกคุณตรงๆ ว่านี่คือดีที่สุดเท่าที่อินโดนีเซียสามารถให้คุณได้แล้วครับ แม้สัมผัสหนังเบาะจะไม่ดีเหมือนตัวเก่าที่เอามาทำตัดเย็บโรงงานไทย หรือสัมผัสพลาสติกรอบคันจะโคตรพลาสติกไปนิดจนคิดถึง Prius ตัวที่ขายในไทย แต่ในส่วนที่ต้องจับประจำ เช่น ปุ่มต่างๆ พวงมาลัย จอสั่งการ ไม่ได้แย่…. ยกเว้นหัวเกียร์ ที่คุณอาจจะร้องว้ายแล้วบอกว่าอีกนิดนึงเหมือนถุงหุ้มอะไรสักอย่างเหี่ยวๆ ของคุณพ่อบ้าน
แต่จุดเด่นของ Innova Zenix คือรายละเอียดวิศวกรรมทั้งตัวถัง โครงสร้าง ไปจนถึง “เครื่องยนต์” ซึ่งบอกเลยนะ ว่าตรงนี้คุณได้เครื่องระดับเทียบเท่า Lexus รหัส 250h หลายตัว แตกต่างกันนิดเดียว บนพื้นฐาน TNGA-C ระดับเดียวกับ Camry ที่ต่างกันแค่แพหลัง ในราคาเท่า Camry ตัวเริ่มต้น
อัตราสิ้นเปลืองรถรุ่นนี้คือ 18 กิโลเมตร/ลิตร ในการใช้งานจริง หรือ Cruise Control นิ่งๆ ตามสไตล์จราจรไทย อาจไปได้ถึง 21 กิโลเมตร/ลิตร บนรถที่น้ำหนัก 1,700 กิโลกรัม (รถเปล่า) พอนับน้ำหนักของเหลวและการแบกทั้งหลายทั้งปวง ให้เลวร้ายสุดยังไง มันคือ 15-16 กิโลเมตร/ลิตร สบายๆ บนเครื่องยนต์ที่รัน EV Mode ได้ไกลขึ้น “ย่องออกจากบ้านเงียบๆ ได้” และได้ล้อที่ซับแรงกระแทกดีขึ้นไปอีกสเต็ปคือ 225/50 R18 ที่ทำให้ตัวรถไม่ดูสอบ ดูอ้วนมีมัดกล้ามแต่ทรงพลังและอัตราเร่งสูสี Fortuner 2.8 224 ม้า! (เพียงแค่หมดแรงไวกว่า หลัง 140 ไม่ต้องพยายามเหยียบมาก ช่างเทคนิคประจำศูนย์เค้าว่าไว้แบบนั้น)
ในคอมเมนต์แรกจะเป็น Verdict สำหรับการเลือกรถ ถ้าคุณจะซื้อคันนี้ อะไรคือเงื่อนไขที่น่าจะทำให้คุณเลือก หรือไม่เลือก โดยแอดแมวครับ