บางทีแอดก็ไม่ค่อยเข้าใจระบบภาษีบ้านเรานะ เรื่องการจด VAT ผู้ประกอบการ คือแอดทำงานหลายอาชีพ ฟรีแลนซ์ ซื้อมาขายไป และงานอื่นๆ ด้วยนั่นแหละ นอกจากทำเพจ ถูกเสมอ เมียเผลอบัตรพัง ก็มีอีกพอสมควร ทีนี้ตอน COVID-19 มันก็มีรายได้มากขึ้นที่ต้องเข้าระบบ ได้จาก Logistics ด้วย อะไรด้วย…
…มันก็เป็นปีเดียว (2565) หลัง COVID-19 เบาบางลง ก็ขายของได้จนถึงเกณฑ์ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (รายได้นอกเหนือจากเงินเดือนถึง 1.8 ล้านบาท) ตามกฎหมายก็คือต้องจด แล้วจะออกจากระบบได้ก็ต่อเมื่อรายได้ต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท 3 ปี ต่อเนื่อง
ประเด็นคือ: การบังคับจดทะเบียนปุ๊บ เราก็มีภาระต้องทำบิลภาษี+ยื่น หรือเอาง่ายๆ สั้นๆ ถ้าไม่ใช่สินค้าซื้อมาขายไป แต่เป็นสินค้าเชิงบริการหรือคอมมิชชั่น (เช่น ขายประกัน ที่ถ้าบอกกันตรงๆ ก็คือการได้ค่าคอมมิชชั่น = ไม่มีผู้รับภาษีในทอดต่อไป) มันก็ทำให้เรามีภาระเสีย overhead 7% ไปทันที
7% เยอะมากมั้ย คุณลองดูตัวนี้ก่อน
7% ถ้ารายได้คุณถึงขั้นปีละ 2.4 ล้านบาทขึ้น โดยประมาณนะ จากเพดานอัตราภาษีแล้วคุณก็จะเสียเฉลี่ยๆ หลังจากหักค่าใช้จ่ายอะไรอื่นๆ เต็มที่เลยก็ไม่ต่ำกว่า 22% (รวม VAT) ไปแล้ว หรือพูดง่ายๆ หาเงินมา 100 บาท 22 บาท เป็นของสรรพากร ซึ่งถามเยอะไหม ก็เยอะ แต่รายได้มันก็พออยู่ได้แหละครับเพราะมันเยอะพอ
แต่กลับกัน หากคุณเป็นคนที่เข้าระบบภาษีมูลค่าเพิ่มไปแล้ว (แบบแอด) แต่รายได้หลังจดกลับมาอยู่ระดับต่ำกว่า 1 ล้านบาท/ปี ซึ่งปกติควรจะเสียภาษีหลังจากลดหย่อนภาระต่างๆ เฉลี่ยประมาณ 10% ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มรายได้เหล่านั้นกลายเป็นเน็ตๆ 17% ของเงินได้
ปัญหานี้คือ “กับดักชนชั้นกลาง” ที่แท้ทรูมากๆ เพราะถ้าคุณเข้าระบบแล้วรายได้เกินเกณฑ์ 2.4-2.5 ล้าน ก็ดีไป แต่ถ้าไม่ถึง หรือต่ำกว่า 1 ล้านบาท/ปี แบบแอดซึ่งปัจจุบันอยู่แถวๆ 4-5 แสน … แต่ยังคงต้องโดน Topup 7% อีกเช่นเคย
หลายคนอาจจะบอกว่าแอดๆ จดหุ้นส่วนสามัญไปสิ หรือจดนิติบุคคลบริษัทไปเลย… แต่คุณอาจลืมว่าการจดแบบนั้น คุณมีภาระต้องรับผิดชอบมากกว่าบัญชี ไหนถ้าจ้างคนทำงานต่อเนื่องจะต้องเข้าระบบประกันสังคม มีนั่นโน่นนี่มากมาย ฯลฯ กลับไปที่ข้างบน คือ “ถ้ารายได้ต่ำกว่า 2.4-2.5 ล้านบาท โดยประมาณ ก็ไม่คุ้มจด เพราะมีภาระเพิ่ม แม้ภาษีนิติบุคคลจะเพดานต่ำกว่าบุคคลก็ตาม”
คำถาม: ทำไมสรรพากรถึงไม่ใช้ระบบใดระบบหนึ่ง ระหว่าง
- บุคคลธรรมดาถ้าเกิน 1.8 ล้านบาท/ปี ให้ไปเสีย 7% เพิ่ม ในการเสียภาษีเงินได้ประจำปี โดยไม่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ
- 1.8 ล้านบาท/ปี เป็นเพดานจดที่ใช้กันมาเป็นชาติแล้ว มันควรจะขยายไปได้แล้ว หรืออย่างน้อยๆ ถ้ามีคู่สมรสยื่นรวม เพดานทั้งกำแพงขั้นบันไดและกำแพงภาษีมูลค่าเพิ่มควรจะ *2 ไปที่ 3.6 ล้านบาท
…แล้วเอาทุกคนเข้าระบบภาษีจะดีกว่ามั้งครับ