ปกติเวลาขับรถยาวๆ อยากถามว่าคุณเคยตรวจดูอะไรกันบ้างกับรถยนต์?

ปกติเวลาขับรถยาวๆ อยากถามว่าคุณเคยตรวจดูอะไรกันบ้างกับรถยนต์? ระหว่าง เติมๆ น้ำมันขับไปเถอะ กับขับไปเปิดเช็คไปแบบมนุษย์ขี้กังวล บางทีก็นั่งคิดเหมือนกันว่า เอ หรือเราควรจะขยับไป Battery EV (BEV) มันเลยไหม เห็นในรูปมั้ยฮะ รถยนต์สันดาปปกติ นั่นน่าจะมีส่วนประกอบหลักพันชิ้น วุ่นวายชะมัด เดี๋ยวโน่นเสีย นี่หลวม ของเหลวหมดอายุ ก็พะวงมันไปเสียทุกชิ้น

ตัดปัญหาให้หมดแล้วเอาชีวิตไปฝากกะคอมพิวเตอร์?

พอมานั่งคิด เออเราก็มีรถขับทางไกลแล้ว 1 แต่อีกคันต้นทุนต่อกิโลมันถูกมากเลยนะ ค่าแก็ส (NGV) 1.25 บาท/กิโล หรือถูกกว่านั้น ซึ่งพอคิดบวกลบคูณหารอะไรยังไง Maintenance ยัดเข้าไปอีก Fixed Cost อื่นๆ ประกันภาษียางแบต ฯลฯ …

…เปลี่ยนทำไม?

เปลี่ยนทำไมในเมื่อเราใช้เจ้านี่แค่เก็บเงินกิโลละบาทไว้ซ่อม กับเติมแก็สโลละบาทกว่าๆ รวมๆ ยังถูกกว่าค่าน้ำมันรถอีกคัน

เปลี่ยนทำไมในเมื่อจุดชาร์จยังไม่สะดวกพอ โดยเฉพาะการวิ่งทางไกล ที่ต้องลุ้นและกลายเป็นคนมีภาระ+ใช้เวลามากกว่าเดิม

เปลี่ยนทำไมในเมื่อภาษียังไม่เอื้ออำนวยกับรถใหม่จากผู้ผลิตที่เราวางใจ

สิ่งเหล่านั้น แอดแมวอยากขอบคุณและยกให้บรรดา Trendsetter สาย BEV ทุกคนจงเจริญๆ เพราะคุณกล้าที่จะเป็นผู้นำเปลี่ยนก่อนคนอื่น โดยเฉพาะคนที่กล้าลองให้ได้รู้

ถึงส่วนหนึ่งจะอวยมัน แต่จากข้อดีหลายๆ อย่าง ยกเว้นเรื่องจุดเติมไฟ 🙂 BEV มันโอเคมากๆ นะ เพราะถ้าเรามองแค่รถมีไว้วิ่งไปเติมน้ำมัน ❌ ผิดถนัดเลย ชิ้นส่วนควบต่างๆ มันเยอะจริงๆ ทำให้ยิ่งใช้ยาวค่าใช้จ่ายแฝงที่กดๆ ไว้ จะมาบานออกในการดูแลนั่นเอง ในขณะที่รถไฟฟ้าค่าวิ่งก็น้อย ระยะยาวก็ถูกลงๆ และยังถูกลงได้อีกนิดด้วยเพราะแบตเตอรีก็กำลังพัฒนากันเยอะมาก

ถ้ามันเกินจุดคุ้มทุนของเจ้าคัน NGV ก็สงสัยจะปล่อยออกไปดีกว่าแฮะ 😅 อยากได้ BEV สักคันละฮะตอนนี้

อีกอย่างคือเรื่องโลกร้อนด้วย หลายคนอาจได้ยินข่าว COP26 มา แต่เรื่องความก้าวหน้าบ้านเราไปถึงไหน ก็ต้องบอกว่า เท่าที่ได้ยินจากทางสรรพากรกับอีกมหาวิทยาลัยหนึ่งเขากำลังวิจัยอัตราภาษีเกี่ยวกับเรื่องภาษีคาร์บอน เทียบกับหลายๆ ประเทศ กับแนวโน้มการปรับเปลี่ยน Infrastructure ไปแต่ละจุดๆ ให้พอดี

พอนั่งนับแล้ว คำนวณกับความพร้อมและแนวทางดำเนินการรัฐของไทย แอดแมวว่าห้าปีฮะ กำลังดี เราจะได้ BEV ระดับเดียวกับพวก MG ZS EV ในช่วง 7-8 แสนบาทแน่นอน และถ้าบวกจากตรงนั้นไปอีกห้าปี เชื่อว่าจะได้รถ EV Range 500km จริงๆ ในเรตต่ำล้านได้ เพราะถึงตอนนั้นโครงสร้างพื้นฐานเราจะพร้อมมากกว่านี้

ก็หวังว่าเราจะไม่สะดุดขาตัวเองเรื่องพลังงานไฟฟ้าเสียก่อน ถึงทุกคนที่มีบ้านอาจจะมีงบติด On Grid แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่มีรถ BEV จะมีบ้านไว้ทำแบบนั้นในชีวิตประจำวันได้ จุดชาร์จทั่วไปที่คาดว่าอาศัยแหล่งไฟจาก กฟน./กฟผ. คงเป็นหลักอยู่ ดังนั้นถ้าเราไม่มีแหล่งพลังงานที่ดีกว่าก็ถือเป็นโจทย์หนักเช่นกัน

และหวังว่าจะขึ้นภูหลงถังได้ทุกคันด้วยนะฮะ

แอดแมว (ที่ไม่เกี่ยวอะไรกะเพจรถอีกเพจ)

9 มกราคม 2565

#แมวเมาเล่าเรื่อง

Back to Top
Back to Top
Close Zoom