พูดตรงๆ คือ แอดเป็นพวกที่ใช้ของเหลือจากในบ้านมาบ่อยๆ อย่างโต๊ะตัวก่อนหน้าที่จะเปลี่ยนเป็นนัง UTESPELARE (อูเตสเปียลาเร่) เนี่ย คือดอยของเก่าจากห้องทำงานมาใช้เพราะยังหาตัวที่โดนใจไม่ได้เลยจนกระทั่งเมื่อปีกลายที่ผ่านมาเนี่ยแหละ ที่ IKEA ประกาศร่วมมือกับ ASUS จนเกิดเป็นโต๊ะตัวนี้ และมันก็มาอยู่ในห้องแอดกาวมาเดือนกว่าแล้ว และบอกเลยว่าเป็นโต๊ะที่รู้สึกว่าชอบในงบประมาณ 3,990 บาทเท่านั้นเอง แต่ได้แค่โต๊ะนะ ส่วนคนอยากได้เซ็ตพร้อมเก้าอี้เกมมิ่งมันขึ้นไป 7,980 บาท ซึ่งแอดไม่กดอ่ะ เพราะมี Modernform ERA-L แล้ว
อันนี้ถือว่าตอบรวบไปพร้อมกัน เผื่อว่ามีคนสงสัยว่าไม่เอา FREDDE (เฟรดเด) เหรอ ซึ่งถ้าให้แอดซื้อแอดก็จ่ายได้ไม่แพงอะไรขนาดนั้นแค่ 7,490 บาท แต่จุดที่แอดไม่ชอบคือดีไซน์มันอึดอัด มันฟีลแบบโต๊ะเรียนสมัยเด็กๆ เกินไปหน่อย มีชั้นวางหนังสือข้างบนและดึงบานปิดหน้าโต๊ะมาเป็นที่วางเขียนอ่านหนังสือเงี้ย แล้วพอไปนั่งดูที่โชว์รูมบางใหญ่ก็รู้สึกเลยว่ามันแคบไป ยิ่งวางจอคอมสองหน้าจอแบบในภาพด้านล่างด้วย มันถูกจำกัดให้วางตรงอย่างเดียวด้วย เฟรดเดเลยไม่ได้เข้าบ้านครับ
First Impression ของโต๊ะนี้เลยนะ คือ หน้าโต๊ะ 160 cm. x 80 cm. ปรับความสูงแบบขันน็อตเข้าออกได้ตั้งแต่ 66-78 cm. กล้าพูดได้เลยว่า “กว้างพอดีกลังสะใจ” คือตอนแรกจะเอาขาแยก 2 ตัวมาวางแล้วเอาแผ่นไม้หน้ากว้าง 200 x 80 cm. มาแปะด้วยซ้ำ ทว่าพอวัดความกว้างห้อง ถ้ายืดไปอีก 40 cm. มันจะกลายเป็นว่าช่องว่างระหว่างตู้เสื้อผ้ากับโต๊ะจะเหลือนิดเดียว เข้าออกต้องระวังมากขึ้นไม่ให้เท้าเตะขาโต๊ะอีก อันนี้แอดเลยมองว่าเป็น User ไม่ Friendly แล้ว เลยยอมใจมันนิดนึง
ถ้าให้ตัดเชือกว่าชอบไม่ชอบอะไรสำหรับโต๊ะตัวนี้เลยนะ คือ
อันนี้ชอบนะ
- โต๊ะกว้างกำลังดี ใส่ห้องไม่ใหญ่มากได้และไม่ล้นเกินไป
- ท็อปเป็นไม้พาร์ติเคิล เนื้อแน่นแข็งแรงไม่กลัวน้ำเท่าไหร่ แต่ก็ควรเช็ดเสมอ
- มีตะแกรงเหล็กด้านหลังโต๊ะไว้วางของหนักอย่างพวก UPS หรือปลั๊กไฟได้
- ขาโต๊ะขันเข้าออกปรับความสูงได้ แข็งแรงมาก โครงสร้างเดินเป็นแนวเหล็กสี่เหลี่ยมรับโต๊ะพอดีๆ
- มีตาข่ายเก็บสายไฟ จัดโต๊ะสะดวกไม่รุงรังทั้งบนและใต้โต๊ะ
- มีช่องร้อยสายไฟขึ้นลงระหว่างตาข่าย ไม่ต้องออกข้างเหมือนบางตัวที่เคยเห็น
จะซื้อคิดตรงนี้ก่อนนะ
- ไม่มีที่วางแก้วหรือแขวนหูฟัง อยากได้จ่ายเพิ่มเอง
- ถ้าขาโต๊ะเป็น Fix แล้วมีมือหมุนขันสูงต่ำได้น่าจะดีกว่า
- หนัก! ถ้าไม่ใช่คนถึกมีแรง ประกอบเองเหนื่อยแน่นอน
- สีดำมันเห็นฝุ่นชัดแต่ก็แลกกับความเท่ ถ้าไม่ขยันเช็ดเอาโต๊ะขาวเหอะ
ประกอบ UTESPELARE (อูเตสเปียลาเร่) กันดีกว่า
หลายคนอาจจะเลือกวิธีเพิ่มค่าแรงจ้างช่างมาประกอบโต๊ะให้ หรือไม่ก็ใช้แรงงานคนในบ้านทำให้ แต่จริงๆ แล้วแอดอยากบอกว่าโต๊ะเนี้ย ประกอบคนเดียวได้ แต่ต้องใจเย็นๆ ค่อยๆ ทำเอา ตอนประกอบก็ตั้งโต๊ะขึ้นมาเหมือนใช้งานปกติได้เลย ไม่ต้องพลิกโต๊ะกลับไปมาเหมือนคู่มือก็ได้ แต่ตัวเราอ่ะต้องนอนขันน็อตใต้โต๊ะสักหน่อยนะ
ตรงส่วนขาโต๊ะเนี่ย ให้เริ่มประกอบเป็นอย่างแรกเลยแล้วปรับให้เข้าระยะนั่งของเราเอา วิธีแอดคือนั่งเก้าอี้ทำงานตามปกติแล้วจับขาโต๊ะวัดดู สมมติว่าโต๊ะมันตั้งอยู่แล้วท็อปโต๊ะหนาขึ้นมาอีกนิดนึง วางคีย์บอร์ดและจอคอมมันจะสูงไปไหมอันนี้แอดเลื่อนอยู่ 1-2 ที พอเข้าที่ก็บล็อคน็อตเข้าไปได้เลย
ถ้าเรียงตามลำดับก็ตามภาพ คือประกอบขาโต๊ะเสร็จแล้ว
- เริ่มขันตัวบาร์ยาวด้านหลังโต๊ะยึดระหว่างขาโต๊ะสองข้างมาขันเข้าด้วยกัน มันจะมีสองท่อน แนะนำให้เสียบทั้งคู่พร้อมกันแล้วล็อคน็อตพอหลวมๆ ก่อนนะ ให้มันทรงตัวได้ก่อนแล้วค่อยๆ ขันแน่นเข้าไป เพราะว่าปลายท่อนเหล็กมันจะมีเขี้ยวล็อคอยู่ด้วย รีบทำไปมันจะทำเขี้ยวหักเอา
- เอาโครงรองท็อปไม้มาวางแล้วขันให้เข้าที่ ปรับนิดหน่อยแล้วมันจะเข้าที่แล้วล็อคน็อตได้เลย เท่านี้โครงเหล็กของเราจะเสร็จละ แต่ยังไม่แนะนำให้ขึงผ้าด้านหลังนะ ปล่อยไว้หลังจากล็อคท็อปขั้นตอนที่ 3 ก่อนครับ
- วางท็อปไม้ลงไปได้เลยเริ่มจากเหล็กด้านหลังแล้วขันให้เข้าที่ จากนั้นท็อปไม้ด้านหน้าค่อยวางตามมา ตรงนี้มันจะล็อคได้ 2 แบบ คือหันช่องว่างเข้าตัวให้รับลำตัวเราเข้าไปมากขึ้นนิดหน่อยมีพื้นที่ปีกข้างโต๊ะ แต่ถ้าหันเข้าพื้นเหล็กด้านหลังก็จะเป็นช่องร้อยสายไฟขึ้นมาจากโต๊ะแทน
พอล็อคน็อตเข้าที่หมดแล้ว ตอนนี้ก็เอาตะขอขึงผ้ามาขันเข้าที่ได้เลย แล้วเอาผ้าตาข่ายมาเกี่ยวตามปลายตะขอ เสร็จแล้วตอนนี้เราก็มีรังงูซ่อนสายไฟให้ใช้แล้วจ้า ตรงนี้เอาไว้เม้มเงินเมียก็พอไหวนะ ถ้าเมียไม่ค่อยค้นโต๊ะ ถถถ
หัวน็อตเรียกว่าเป็นไซซ์เดียวกันหมดแต่ความยาวจะไม่เท่ากัน ดังนั้นตอนขันน็อตล็อคระหว่างขาโต๊ะกับท็อปเปอร์แค่เลือกไซซ์ให้ถูกก็โอเคแล้ว หัวน็อตไม่ดันตัวท็อปโต๊ะจนนูนขึ้นมาแบบโต๊ะถูกๆ บางรุ่น อันนี้แอดถือว่าคุณภาพเกินราคา 3,990 นะ เพราะว่าราคานี้บางแบรนด์เป็นน็อตแบบหัวเล็กมา ขันแล้วลงน้ำหนักไม่นานไม่กี่เดือนหรอก ท็อปกระดกเป็นม้าโยกในสวนสาธารณะเลย
ตะแกรงเหล็กหลังโต๊ะ ส่วนตัวตอนแรกแอดก็คิดไม่ออกหรอกว่าเอาไว้วางอะไรดี แต่พื้นที่ด้านหลังเนี่ยดีที่วางพวกลำโพงหรือว่าปลั๊กไฟก็ได้ เรียกว่าของที่จำเป็นต้องมีบนโต๊ะ แต่ไม่อยากให้มารกด้านหน้าก็มากองๆ เอาไว้ด้านหลังแบบเนี้ยก็ได้เหมือนกัน
สุดท้ายเมื่อประกอบโต๊ะเสร็จ ส่วนตัวแอดคิดว่าเป็นโต๊ะที่ดีสมและแอบจะคุ้มเกิน 3,990 อยู่เหมือนกัน แต่จะติดตรงที่ว่าถ้าใครเป็นสายเฮดโฟนต้องหาที่วางหูฟังมาเพิ่มเอา รวมถึงช่องเสียบแก้ว Yeti โต๊ะนี้ไม่มีให้นะ ต้องซื้อพวกตัวแขวนเพิ่ม ซึ่งแอดคิดว่าแพงเกินไป เลยเปลี่ยนไปใช้หูฟัง Earbuds และหาที่วางแก้วแผ่นไม้ของไดโซะ ซังเงียวมาวางแทน ก็ถือว่าใช้ได้ ไม่ต้องให้โต๊ะเปียกแล้วอาจจะซึมลงเนื้อไม้แล้วเสียเร็วเอา
ส่วนตัวจากที่ใช้เป็นโต๊ะคอมมาเดือนกว่าแล้ว แอดชอบที่โต๊ะเนี้ยงานประกอบแข็งแรงทนทาน ไม่มีอาการโต๊ะหลวมโยกอะไร ขอแค่ขันน็อตเข้าที่ให้มันยึดกันดีๆ ทุกอย่างก็จบแล้ว และเนื้อไม้มันแน่นด้วยเลยทำให้คนเล่น Custom Mechanical Keyboard ไม่จำเป็นต้องรอง Mouse mat เพิ่มไป 2-3 ชั้นก็ได้ เสียงมันไม่ใช่เสียงก้องแล้ว กลายเป็นเสียงเพียวๆ ของคีย์แคปและตัวสวิตช์เองเลย
ถ้าจุดไม่ชอบเนี่ย ใจแอดคิดว่าอยากให้มันเป็นโต๊ะที่มีคานหมุนปรับความสูงต่ำได้เพราะว่าบางทีแอดก็อยากยืนทำงานบ้าง แต่ถ้ายืนพิมพ์งานแล้วโต๊ะสูงเท่าเดิมก็คงจะได้อยู่ในท่า Mission Impossible แน่ๆ ดังนั้นส่วนนี้แอดก็อยากให้มันมีคานหมุนด้วยมือติดมาให้อีกหน่อย เพิ่มอีก 500 บาทก็ยังพอรับได้ เวลาอยากยืนทำงานเปลี่ยนท่าหรือปรับโต๊ะให้เตี้ยลงอีกนิดจะได้ใช้สะดวกๆ หน่อย แต่จริงๆ ได้แค่นี้ก็ถือว่าดีมากๆ แล้ว
และขอย้ำเตือนกันก่อนเลย แอดใช้โต๊ะดำและบ้านก็มีฝุ่นระดับนึง ดังนั้นถ้าใครไม่ขยันเช็ดโต๊ะแบบเดือนเว้นเดือนนะ โต๊ะดำกลายเป็นสีขาวเพราะฝุ่นแน่นอน ถ้าใครไม่อยากให้โต๊ะเปลี่ยนสี แนะนำให้เอาตัวสีขาวมาใช้แทนจะดีกว่า สบายชีวิตกว่า และนอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรอยากติงแล้ว อุตส่าห์ให้ขนาดนี้แล้วได้ราคาขนาดนี้ด้วยก็ถือว่าคุ้มแล้วครับ ส่วนตัวถ้าใครถามว่าซื้อได้ไหมก็ตอบว่าซื้อได้เลยไม่ต้องคิดมาก เปิดหน้าเว็บ IKEA สั่งได้เลย เช็คสาขาที่มีของแล้วกดให้มาส่งที่บ้านโลด!