Automotive Reviews

ลองแล้วแม้วแม้ว กับ Corolla Cross: Hybrid Crossover

ช่วง #ลองแล้วแม้วแม

ช่วง #ลองแล้วแม้วแม้วโดย แอดแมว(เมา) ณ ถูกเสมอ
วันนี้เสนอตอน


Corolla Cross: Hybrid Crossover
Jack (of All Trade) ผู้ฆ่ายักษ์ด้วยเถาถั่ว

เกริ่นนำหัวข้อมาแบบประหลาดเช่นนี้ แน่นอนว่าแอดแมวกึ่มมาเต็มที่ หลังจากบ่ายนี้ฟินกับการทดลองรถยนต์รุ่นโคตรติดกระแส “Toyota Corolla Cross” ที่ใครๆ ก็อยากเข้าไปลองรถกันจนแน่นขนัด ทั้งในโชว์รูมและมอเตอร์โชว์ เพราะเป็นการบุกตลาด Crossover SUV สไตล์พ่อบ้านจริงจังครั้งแรกในรอบสิบปีของโตโยต้า หลังจากที่สมัยก่อนมี Toyota RAV4 และมีข่าวเล็ดลอดว่าเขาจะเปิดตัว SUV อีกรุ่นให้คนกังขาเล่นว่า เอ๊… มันจะมาเติมเต็มเซกเมนต์ไหนกัน?

Corolla Cross เป็น Crossover SUV ที่มีกลิ่นอายรุนแรงของ Subaru บนดีเอ็นเอโตโยต้า TENGA เฮ้ย! TNGA หรือ Toyota New Global Architecture Platform ที่สร้างชื่อเสียงโด่งดังด้านการขับขี่มาแล้วกับทั้ง Toyota C-HR, Toyota New Camry และ Altis ตัวปัจจุบัน
อาจจะเพราะการตลาดของโตโยต้านั้นวิเคราะห์แล้วว่า เทรนด์ Crossover SUV หรือรถทรงยกสูงที่เป็นพื้นฐานเก๋งซีดาน กำลังมาแรงในตลาดโลกรวมทั้งไทย อย่างที่ตีตลาดกระจุยในปัจจุบันคือ Honda HRV กับตัวที่ไม่พูดถึงไม่ได้อย่าง MG ZS ซึ่งครองใจผู้ซื้อจำนวนมาก ด้วยฟีเจอร์ตรงใจและความ “ใจถึง” ในการอัดความพรีเมียมหรือออพชั่นล้นคันลงมาในราคาที่จับได้ แถมได้อรรถประโยชน์กว้างขวางด้วยการขนของสไตล์รถท้ายตัด 5 ประตู สองเจ้านี้อย่างเดียวเดือนนึงขายได้เจ้าละหลักพันคัน แม้กระทั่งโควิดก็ยังไม่ทำให้ยอดขายซาลงสักเท่าไหร่ แถมจะขายดีกว่าซีดานเจ้าตลาดเดิมๆ ที่ราคาพอๆ กัน แต่พื้นฐานเป็นเกรดสูงกว่า (HR-V เป็นรถพื้นฐาน Jazz ในขณะที่ Civic เป็นพื้นฐาน Accord G9!) แบบเริ่มเห็นแนวโน้มได้ชัด

สงครามสามก๊ก… ที่ C-HR โดนเดียวดายซะงั้น
(ภาพจาก Parkers.co.uk)

ประจวบเหมาะกับโตโยต้าเดิม มีไลน์ผลิตภัณฑ์ทรงๆ นี้ ที่อาจจะไม่ตอบโจทย์ครอบครัวอย่าง C-HR: รถที่มีดีทุกอย่างยกเว้นความโปร่งโล่งสบาย แล้วทำไมต้องปล่อยชาวบ้านเขาขายกันโครมๆ โครมถึงขนาดว่าแม้แต่ Mazda ก็ยอมออกรุ่น Crossover ตัวเด็ดมาข่มไลน์ตัวเองอย่าง CX-30 ชนิดที่ว่าราคาตีหัวคนออก Mazda 3 ตายด้วยวลีเด็ด “เพิ่มหนึ่งพันได้ประตูท้ายไฟฟ้า” กันเลย
ก็นั่นแหละครับคุณผู้ชม

—————-

วันนี้แอดแมวเดินทางมาที่โชว์รูมโตโยต้าเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา หรือโชว์รูม ECO Pakchong เด่นด้วยสถาปัตยกรรมทันสมัยที่ล้อมรอบด้วยสวนพรรณไม้และบ่อปลาคาร์ฟ พร้อมระบบแสงส่องสว่างที่เป็นธรรมชาติ
ศูนย์สวยด้วยพรรณไม้ ตั้งอยู่ไม่ไกล กทม. แค่ 150 กม.
(พิกัด: https://goo.gl/maps/kESV3r1iGAAfjv4dA)
บริเวณโดยรอบร่มรื่น มีกึ่งเอาท์ดอร์ มีร้านกาแฟสด และบ่อปลา…

สวรรค์ของแมวละก๊า

และนั่นไม่ใช่เป้าหมายการมาพักผ่อน… แต่เป็นเจ้านี่…
ใช่แล้ว เปิดตัวปุ๊บมีรถทดลองขับเลยยยยย

Toyota Corolla Cross [Hybrid Premium Safety] หรือตัว Top of the Line คันขาวสวยภายในอินทีเรียสีแดงจอดสงบนิ่งหน้าศูนย์ รอแอดแมวผู้ซึ่งลืม Booking (-_-“) เทสต์รถซะฉิบ…
ก็เลยวิ่งเข้าไปดูในศูนย์แก้เบื่อ ก่อนรอเทสต์อีก 13 คิว ครับท่าน…. ใช่ 13 คิว ในศูนย์ต่างจังหวัดในวันหยุดไม่ยาว แม่โว้ยยย @)&^)#@*%)!!!!!

—————-

กิตติกรรมประกาศ

ก่อนจะรีวิว สำนัก “ถูกเสมอ” ขอยืนยันว่า Corolla Cross เป็นรถยนต์ที่หาญกล้าชาญชัยยิ่งนักในการ
  • เอาชื่อสายพันธุ์ในตำนานที่คนเชื่อมั่นทั่วโลก รุ่นที่ขายดีที่สุดของโลกอย่าง Corolla มาลงในผลิตภัณฑ์ที่คนยังไม่รู้จักมันเลย เพื่อกระตุ้นอะไรก็มิทราบได้ แต่ถ้าเอาชื่อนี้มาตายคือตาย
  • เอาชื่อ TNGA มาแขวนกับการกลืนน้ำลายแบบเดียวกับมาสด้าด้วยช่วงล่างหลัง “Torsion Beam” หรือคานบิด… ซึ่ง รู้แหละว่าไม่ได้แย่ คุณเซ็ตรถให้ดีด้วยคานบิดได้แน่นอน แต่คนจะด่าตามหลังไหมว่าไหนว่า TENGA เอ้ย TNGA อัพเกรดช่วงล่างหลังอิสระไง แกจะถอยหลังเข้าคลองแบบ AE101 ไป AE111 เหรอ แว้ดๆๆๆๆ
  • เอาเครื่องยนต์ที่คนยี้เป็นอันดับต้นๆ คือ รถใส่ถ่าน หรือ Hybrid ตัวเดียวกับ C-HR/Altis และแบตเตอรีแบบ Ni-MH (นิกเกิลเมทัลไฮดราย) ลงมาในรถยนต์รุ่นที่ “ตั้งใจจะขายดี” แถมทำออพชั่นมาฆ่าเบนซิน 1.8 เหมือน Altis ไม่มีผิด !!!!???
  • ตัดออพชั่น เช่น Auto Brake Hold, Dynamic Radar Cruise Control แบบตั้งแต่รถหยุดนิ่ง (ซึ่งมีใน Altis Top และรู้สึกจะ Majesty!?) ไปจนถึงยางอะไหล่ เพื่อลดต้นทุน แล้วเสริมสิ่งที่ “คนอยากได้” แบบแอดแมวถึงกับอ้าปากค้าง…
    • ซันรูฟ เฮ้ยโตต้า เปิกซังลู้ก!!!?? นี่ตั้งใจจะตบตีกับ MG และ HR-V ให้ได้จริงๆ ดิ
    • แอร์ Dual-Zone พร้อมฮีตเตอร์ ในวันที่คนจำนวนมากยังไม่รู้ว่าแอร์มีฮีตเตอร์ คือระบบผสมลมร้อน มันดียังไง คนชินกับแอร์ Denso ของโตโยต้าที่มันต้องเย็นเจี๊ยบไม่ใช่เรอะ?
    • ล้อเท่าควาย กับยาง 225/50 R18 แม็กลายค่อนข้างอลังอยู่ แต่ยางรุ่นนี้คือใส่ Michelin Primacy 4 มาทั้งตัว Premium และ Premium Safety คือออกตัวเลยว่า ฉันสายนุ่มนิ่ม นะ ไม่ใช่สายสำหรับนักซิ่งแต่ประการใด
    • แร็กหลังคา พร้อมอย่างยิ่งสำหรับเพิ่มความแอดเวนเจอร์ลงไปบนตัวรถอีก
แต่นอกจากนั้นแหละครับ ไฮไลต์ล้วนๆ แม่เอ๊ย…
—————-

แรกพบสบตาเมื่อเจอหน้าเธอ…


สิ่งหนึ่งที่อยากด่าโตโยต้า… คือ รถคันจริงสวยกว่าโบรชัวร์ มาก มาก มาก เป็นครั้งแรกที่โตโยต้าอาจจะรีบ หรือใช้เลนส์ไวด์ (?) มากไป แล้วรีทัชภาพเสียจนส่วนโค้งส่วนเว้ารถมันดูไม่ได้เรื่อง… ทั้งที่คันจริงมันดูแบบ “กำลังดี” ทั้งกว้างยาวสูง
มิติความยาว 4.46 เมตร และฐานล้อ เท่าไหร่วะเนี่ย -*- มันเป็นไซส์ที่คนทั่วไปขับไม่ยาก และรวมถึง ผบ.ทบ. แอดแมวด้วย เพราะรถซีดานปกติพวก C-Seg ปกติจะยาวกว่านี้ประมาณนึง เอาง่ายๆ รถรุ่นใกล้เคียงที่เขาว่าทำแท็กซี่ได้ นั่นก็ต้องยาวกว่า 4.5 เมตร ตามกฎหมาย ดังนั้นไซส์นี้ไม่ได้ขับยากเลยครับ มันยาวเท่ากันหรือน้อยกว่ารถปกติ แค่อาจจะงงๆ นิดนึงสำหรับคนไม่เคยขับรถ 5 ประตู หรือตรูดตัด

หน้าหลัง งามแงะด้วยไฟหน้า Bi-Beam Projector LED สำหรับตัวทอป และไฟท้ายทรงๆ เพื่อนร่วมชาติอย่าง Yaris/Fortuner ตัวปัจจุบันนั่นแหละ ไม่ต้องคิดอื่นไกล แต่ก็สวยดีและดูเรียบๆ นิดนึง แบบว่าไม่ถึงกับน่าเบื่อเกินไป

ภายใน ตัวทอปมีซันรูฟที่เลื่อนมือและปรับยกไฟฟ้า คอนโซล… ไม่ต้องคิด ยกอัลติสมาทั้งดุ้น -_- ต่างกันแค่จอกลางจะใหญ่กว่าและเป็น Apple Carplay ที่รองรับแอนดรอยด์ด้วย แต่ถ้าเสียบสายแอนดรอยด์จะตัดภาพตอนวิ่ง ดังนั้นจะเหลือเพียงใช้ประโยชน์เป็น Bluetooth ส่วนถ้าอยากใช้ Android Auto คงต้องมีค่าปลดกันนิดหน่อยนะ
เบาะก็ทรงเดียวที่คุณคุ้นเคย แต่ช่วงท้าย อันนี้ดีกว่า C-HR แน่นอน นอกจากจะโล่งกว้างมีกระจกทอดยาวๆ แล้ว ด้วยการปรับช่วงล่างท้ายเป็นคานบิด ทำให้มีพื้นที่เพิ่มขึ้น ตอนหลังนั่ง 3 ก็ยังไหว แต่ถ้าจะเอาสบาย 2+2 เถอะ เพราะตรงกลางมีที่วางแขนพร้อมแก้วน้ำ … แก้วน้ำมีที่ใส่เยอะมาก รอบคันไม่ 6 ก็ 8 นี่แหละ 😛

คอนโซลอัลติส เบาะหลังมีที่วางแขน+ISOFIX x2

เบาะหน้าไม่ดันศีรษะมากหนัก เบาะหลังโอเค แต่ไม่ได้ถึงแฮปปี้หรือแย่ กลางๆ ครับ และมี ISOFIX (ช่องเสียบล็อคเบาะเด็ก) พร้อม Hook หลัง 2 ตำแหน่ง ซ้ายขวา อันนี้ตอบโจทย์คุณพ่อคุณแม่มาก
หัวเกียร์ก็ปกติ พวงมาลัยหุ้มหนังที่ก็เออ หุ้มดีกว่าไม่หุ้ม… เบรกมือไปอยู่ที่เท้าด้านซ้ายลึกหน่อย ถ้าถามแอดแมว ส่วนไหนที่ชอบที่สุดในภายในรถ นอกจากเทคโนโลยีที่พอมีแล้ว มีสองอย่างคือ 1. ปุ่มกดไฟฉุกเฉินพอดีมือมาก ไม่ต้องปรับอากาศแขนจากท่าขับ หันไปตบได้เลย และ 2. แอร์ Dual-Zone ไฮโซ
ปุ่มคอนโซลเรียบง่าย ใช้ง่าย ตรงไปตรงมา ไม่มีลูกเล่นวุ่นวาย ปรับได้แบบไม่ต้องละสายตาลงมาจากพวงมาลัยเลย กู๊ดจ๊อบ!!! โดยเฉพาะปุ่มไฟฉุกเฉิน เป็นระยะที่ไม่ต้องเอื้อมแขนและพอดีมือ

พวงมาลัย จับกระชับถนัดมือ หุ้มหนังแบบเดียวกันตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นจนถึงตัวทอป 🙂 มีคอนโทรลพวงมาลัย และ Cruise Control โดยปุ่ม Cruise Control ถึงจะเหมือนกันทุกรุ่น จุดที่ต่างกันคือ 
  • ตัวทอป (Premium Safety) จะมี Dynamic Radar Cruise Control (DRCC) ความเร็ว 30 กม./ชม. เป็นต้นไป ต่างกับรุ่นธรรมดาที่จะเป็นล็อกความเร็ว
  • และมันเป็น DRCC ที่ฟีเจอร์ต่ำกว่า Altis ตัวปัจจุบันนิดหน่อยตรงที่มันไม่ได้ 0-xxx กม./ชม. เหตุผลอาจจะมีหลายประการ เช่น การขับย่องๆ ในเมือง รถติดๆ มอไซค์ตัดไปตัดมามันขลุกขลัก และอาจส่งผลให้เกิดการเบรกลดความเร็วอัตโนมัติช่วงขลุกขลักโดยไม่จำเป็น ฯลฯ
  • อันนี้ คหสต. แอดแมวเฉยๆ นะ แต่คิดว่าระบบนี้ เหมือนกับ Adaptive Cruise Control ของ Nissan KICKS ตัวทอป แอดว่ามันกำลังดีแล้ว เพราะสภาพการจราจรบ้านเรามันไม่เหมือนที่อื่น อาจจะวิจัยมาแล้วว่า 0-30 หรืออะไรแบบนั้น ปล่อยไหลก็เกือบจะได้ผลเท่ากัน อย่างนี้เป็นต้น 
  • นานาจิตตังกับระบบนี้ฮะ

ถุงลมนิรภัยครบทุกตำแหน่ง
Adaptive Cruise Control ไม่ถึงหยุดนิ่ง

ถุงลมนิรภัย จัดเต็มตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น (เบนซิน 1.8) มีม่านถุงลมและอื่นๆ ครบทุกตำแหน่ง ทำแบบ Altis/ATIV เลย อันนี้เอาไป 10/10/10

เครื่องเสียง ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ก็ Bluetooth ธรรมดา ที่รองรับการเชื่อมต่อ iPod/iPhone หรือจะใช้ USB Drive ก็ได้ แต่ถ้าเป็น Android แนะนำเป็น Bluetooth Mode ครับ ถ้าเสียบสาย Android Auto เซลส์บอกว่ามันจะตัดคอนโทรลตอนรถวิ่ง สายแอปเปิ้ลก็ยิ้มกันไปนะ

คุณภาพเสียง ขอผ่านไปครับ แอดแมวไม่ได้หูทอง แต่ยังไงเรนจ์นี้ CX-30 น่าจะนำยี่ห้ออื่นมาด้วยพลัง Bose รอบคันในตัวทอป

แอร์ออโต้ Dual-Zone มีผสมลมร้อนได้!

ระบบแอร์ ต้องไปดูโบรชัวร์ว่ามันมีแบบนี้ตั้งแต่รุ่นไหน แต่ตัวทอปที่ลองขับ คันคอนโซลแดงนี่แหละ เป็น Dual-Zone ปรับได้อิสระ แถมมีระบบอุ่นเท้า/ผสมลมร้อน ซึ่งดีมากๆ ใครไม่เคยใช้ขอให้มาลอง มันดีตรงที่ในวันฝนตก อากาศเย็น ขึ้นเขา ไปจนถึงอากาศภายนอกแปรปรวน “กระจกจะแทบไม่มีทางเป็นฝ้านอกจากจะปรับไว้เย็นเกินไป” อันนี้บอกตรงๆ ว่าแอดแมวชอบมาก และมีช่องเป่าแอร์ด้านหลังอีก บราโว่ๆ

ระบบแอร์ไม่ได้เทสต์ครับว่าเย็นเร็วแค่ไหน แต่เข้าไปนั่งในรถ สามคน (ผม คุณ ผบ.ทบ. และคุณเซลส์) เทสต์รถบ่ายสองมันก็สู้แดด OK ตรงช่องแอร์หลังไม่มีถาดวางแก้วน้ำตรงกลางนะ แต่ไปอยู่ข้างประตู
ช่องเก็บของ รอบคันค่อนข้างอลัง ตรงเก๊ะก็เหมือน Altis แหละ แต่ที่ต้องไฮไลต์เลยคือ “ช่องวางแก้วน้ำ” เยอะมาก นอกจากกล่องเก็บของที่เป็นที่พักแขนตอนกลางจะดีประมาณนึงแล้ว ก็ยังมีช่องว่าง ซ้ายขวาหน้าหลังตรงกลาง นับรวมๆ ได้ไม่ต่ำกว่า 6 ใบ ไซส์แก้ว Amazon สบายๆ
ไฟอ่านหนังสือ/แต่งหน้า/ซันรูฟ ใช้งานสะดวกสบาย ง่าย และที่สำคัญ… ไฟแต่งหน้า+กระจก เปิดอัตโนมัติเมื่อเลื่อนเปิดกระจกทั้ง 2 ตำแหน่ง มีทั้งคนขับคนนั่ง ว้ายยยย ชอบบบ

แก้ปัญหาคนขับตีกับคนนั่งแย่งแต่งหน้าได้ชะงัด
มาดูบั้นท้าย เฮ้ย ด้านท้ายกันบ้างครับ
พื้นที่เก็บของท้ายรถ ถ้าวิจัยมาไม่ผิด คือ 478 ลิตร ดูแล้วเหมือนจะน้อยกว่า CX-5 (505 ลิตร) และ HR-V (530??? ลิตร) นิดเดียว แต่ได้ทางกว้างมากกว่าชัดๆ เลย คือวางถุงกอล์ฟนอนได้เต็มๆ ที่เหลือติดอุโมงค์ล้อนิดๆ ดูในรูปเอาแล้วจะเข้าใจครับ เป็นข้อจำกัดการออกแบบ จะทำให้ใหญ่กว่านี้หรือกว้างกว่านี้ก็ได้ แต่รถก็ต้องพื้นสูงขึ้นอีกประมาณนึงเลยนะ แอดว่ามันเพียงพอสำหรับบ้านที่มีลูก 2 คน ที่โตไม่เท่ากัน แต่ถ้าแฝดที่ต้องรถเข็น x2 บวกสัมภาระพ่อแม่ อาจจะลำบากนิด ฮ่าๆ
อีกส่วนหนึ่งที่ต้องไฮไลต์ไว้ คือแผ่นเลื่อนปิดท้ายนั่น (กันส่อง แต่ไม่กันกลิ่นทุเรียน) มันเป็นก้านเหล็กที่ถอดได้ เลื่อนออกมาล็อกกับขอบข้างเสา C ได้ กางออกมาเป็นผ้าใบ ไม่ใช่แผ่นวางของที่เป็นพวกโฟมสังเคราะห์หรือผ้า ซึ่งก็จะรับน้ำหนักได้น้อยกว่า แต่ก็เก็บแล้วประหยัดที่กว่า นานาจิตตังสำหรับคนวิจารณ์
สวยๆ เลยครับ ถุงกอล์ฟวางนอน คุณพ่อบ้านแฮพพรี่!!!!
ปิดฝาบังของท้ายแล้วได้แบบนี้ ดูเรียบร้อยดี
แต่รับน้ำหนักข้างบนได้ไม่เยอะ มากสุดก็คงประมาณชุดสูท 🙂
ส่วนการพับเบาะ ตอนสอง พับได้ 40/60 และลงไปไม่ถึงกับราบ แต่ก็ได้พื้นที่จุของเพียบ เชื่อว่าจักรยานถอดล้อยัดท้ายรถไม่น่าลำบาก เพราะประตูมันสูงอยู่
ส่วน หลุมยางอะไหล่ ที่ไม่มียางอะไหล่เพราะเรื่องเกณฑ์ CO2 แต่ก็พร้อมหามาใส่เองนะ มีชุดปะยางมาให้ (พร้อมปั๊มลม?) คือเข้าใจทางโตโยต้าอยู่ ถ้าใส่มาแล้วหนักเกิน เกณฑ์ทดสอบ CO2 ทะลุ 100 g/km ราคารถก็จะโดนภาษีเพิ่มไปอีกเรต จากเดิมที่ตัดตัวไฮบริดที่ 98 g/km

—————-

รายละเอียดวิศวกรรมอื่นๆ

อธิบายสั้นๆ ว่า C-HR/Altis เป็นแบบไหน ก็ประมาณนั้น คือเครื่องเกียร์เดียวกันเปี๊ยบ โดยในส่วนของแบตเตอรีนั้น เซลส์แนะนำแอดแมวว่า “แบตตัวไฮบริดสามารถยกเปลี่ยนเฉพาะเซลส์ที่เสียได้” ไม่ต้องยกทั้งลูก และประกัน 10 ปี จ่ายเฉพาะค่าทำลาย แบบนี้ระยะยาวก็น่าสนใจไม่น้อย
เครื่องยนต์ ตัวไฮบริดเป็น 2ZR-FXE Atkinson-Cycle แรงม้าเครื่องพอๆ กับรถยนต์ 1.5 (ก็แน่ล่ะ มันคือ 1.5 ขยายร่าง) แรงเสียดทานต่ำ เชื่อมกับเกียร์เฟืองสุริยะ E-CVT และระบบมอเตอร์ไฟฟ้า Hybrid Synergy พร้อมแบตเตอรีบริเวณใต้เบาะหลัง อินเวอร์เตอร์อยู่ข้างเครื่องยนต์ และแบตสตาร์ตลูกเล็กมาก 33A/CCA 260 รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงตระกูลเบนซินได้ถึง E20*
ส่วนตัว 1.8 ก็มาพร้อมกับ 2ZR-FBE 1.8 เบนซิน Otto Cycle ฉีดพอร์ต แรงม้าก็เท่าอัลติส GR Sport นั่นแหละครับ เติมน้ำมันได้ถึง E85 จากโรงงาน
*รายงานจากฝั่งผู้ใช้ C-HR หลายๆ คน พบว่า E20 ซึ่งออกเทนสูงกว่านิดนึง ดันมีอัตราสิ้นเปลืองในการใช้งานจริง ทั้ง กม./ลิตร และ บาท/ลิตร ดีกว่า E10 ออกเทน 95 อย่างเห็นได้ชัด แต่แอดแมวไม่ได้ทดสอบอัตราสิ้นเปลืองเต็มๆ
ช่วงล่าง แพลตฟอร์ม TNGA จาก C-HR โดยเปลี่ยนช่วงท้ายนิดหน่อยจากระบบอิสระ เป็นคานบิด Torsion Beam พร้อมโช้คอัพและคอยล์สปริง ซึ่งประหยัดเนื้อที่ช่วงท้ายและทำให้ได้ที่วางสัมภาระมากกว่า หลายคนอาจจะมองว่า ลดต้นทุน ก็อาจจะใช่ แต่ข้อดีของคานบิดคือ วิ่งทางตรง = ตรูดนิ่ง, เมนเทแนนซ์ = ระยะยาวประหยัดกว่า อาจจะเหมาะสำหรับรถครอบครัวพื้นฐานที่ไม่มีที่นั่งแถวสาม
และจากการทดลองขับ ท้ายก็ไม่ได้ออกหรือไม่เกาะอะไรนะครับ โอเค มันไม่ใช่เจ้าพ่อช่วงล่างเทพที่ทุกคนคาดหวังแบบ Mazda (CX-30 ก็คานบิดไม่ใช่เรอะ?) หรือ C-HR ที่มาด้วยอิสระแต่ต้น ซึ่งแอดแมวพาเจ้าคันนี้กวาดโค้งแบบจงใจเร่งใส่โค้งกลับรถใต้สะพานแยกเขาใหญ่ตัดมิตรภาพ ความเร็วปลายโค้งน่าจะไม่ต่ำกว่า 70-80 ก็ไม่ได้มีแนวโน้มจะออกอาการอะไรเลย มันพอแน่ๆ สำหรับการใช้งานพื้นฐาน แต่ถ้าจะเอาซิ่ง…. เขาทำ C-HR มาให้แล้ว ก็ไปซื้อ C-HR ครับ นี่มันรถครอบครัว

ระบบแสดงผลการทำงาน จอกลาง MID ขนาดน่าจะสัก 7 นิ้วได้ กับระบบแสดงการทำงานของระบบไฮบริดทั้งว่าอยู่ในโหมด Charge/EV หรืออื่นๆ มั้ย ขับๆ ไปสมมติถอนคันเร่งแบบหน่วงนิดๆ มันก็จะขึ้นตีชาร์จกลับเข้าแบต
ยาง ที่ติดตัวทอปมาจะเป็นแม็กลายสวยพอใช้ กับยาง 225/50 R18 Michelin Primacy 4 ซึ่งนุ่ม แต่ก็หนักตามประสาล้อใหญ่ ความคล่องตัวในการสวี้ดสว้าดจะแตกต่างกับ Altis ล้อเล็กโดยสิ้นเชิง และทำให้พวงมาลัยหนักขึ้นนิดนึงกำลังดี
การซับเสียง คหสต. คิดว่า C-HR เหมือนจะดีกว่า ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ทั้งกระจก ทั้งเสียงเครื่องเข้าห้องโดยสาร แต่ถามว่าแย่มั้ย เอาเป็นว่าดีกว่าอีโคคาร์ทุกรุ่นในตลาดแน่นอน แต่จะดีถึงขนาด Nissan Teana L33 มั้ย ยังห่างไกลครับ มันออกแบบรถทรงสูงต้านลมนิดๆ อย่างนี้ ได้เท่านี้ก็ดีแล้ว อานิสงส์หนึ่งที่ได้คือยางมันสูง ห่างพื้นก็ลดเสียงบดถนนลงได้อีกหน่อย รวมความก็ไม่ได้แย่ แต่ไม่ได้เทพ
หมายเหตุคือ แอดแมวไม่ได้ทดสอบเสียงจากตำแหน่งที่นั่งแถวสองขณะรถวิ่งนะครับ ได้ขับอย่างเดียว 
ห้องโดยสาร นอกจากเรื่องเบาะแล้ว เรื่องพื้นที่เหนือศีรษะ วัดจากแอดแมวสูง 174 ช่วงตัวไม่ได้ยาวมาก ก็เท่าที่เห็นครับ (หัวโต)
พอๆ กับ Innova และเตี้ยกว่า Xpander แต่โดยรวมความสูงห้องโดยสาร “เตี้ยกว่า” แน่นอน เพราะเบาะติดตั้งตำแหน่งต่ำกว่าประมาณนึง เอาง่ายๆ คือเบาะสูงกว่า Altis ไม่น่าเกิน 10 ซม.
ประตู องศาก็โอเคอยู่ และใช้คำว่า “หมุนตัวเข้าไปนั่ง” ได้พอดีๆ ไม่ลำบากสำหรับคนส่วนสูงน้อยๆ หรือผู้สูงอายุครับ ถ้าอยากได้ประตูเลื่อนก็ไป Sienta โน่น เค้าทำมาให้แล้ว
ฝาท้าย อาจจะเป็นไฮไลต์ของรถคันนี้ เหมือนจะมีระบบเตะเปิด(?)แต่ไม่ได้ลอง ฮา… ส่วนระบบกดหยุดความสูง (ตามคลิป) ก็ดีครับ มีปัญหาอย่างเดียวคือ แอดแมวเป็นคนที่เทสต์ระบบกันแจมของอุปกรณ์ใดๆ บนโลกไม่ได้ เข้าลิฟต์ลิฟต์ก็หนีบ เทสต์กระจกไฟฟ้า กระจกไฟฟ้าก็งับนิ้ว เทสต์กะหมา หมาก็กัด…
เทสต์กับ Corolla Cross ก็เช่นกัน เชิญชม…

—————-

ทดลองขับ: ฟีลลิ่งกลางๆ
แต่มุมมองรอบคันโคตรดี ดีโคตรๆ 

สั้นๆ เลยว่า

  • ตีนต้นดีมาก ถีบไฟฟ้าช่วยได้ แต่สายมุดต่อเนื่องไม่ควรเลือกรุ่นไฮบริด กระทืบจมออกตัว แบตลด 2 ขีด, แซง 1 รอบ = แบตลด 1 ขีด (จาก 6) รีเจนไว แต่ถ้าหมดแรงก็จะอืดลงประมาณนึง
  • แป้นเบรกแข็ง ตามสไตล์รถไฮบริดที่มี Regenerative Brake สภาพใกล้เคียงกับ C-HR แหละครับ
  • เบรกมือที่เท้า ใครเคยใช้ ACV31 ก็ประมาณนั้นแหละ ออกแนวแข็ง แต่ระยะกดกำลังดี ไม่กวนกับที่พักเท้า และไม่ทำให้สับสนแน่นอน ยกเว้นคุณจะเป็นพวกขับรถเกียร์ออโต้ใช้สองเท้า (ซึ่งไม่ควร)
  • พวงมาลัย หนักกว่า C-HR คงเพราะยาง ซึ่งเป็นน้ำหนักที่แอดแมวคิดว่ากำลังดี และไม่ต้องปรับอะไรแล้วนะ เสียแต่ในเมืองด้วยความยางมันใหญ่ มันก็จะเหมือนหมุนฝืดนิดนึง ฝืดกว่า Altis แบบเห็นได้ชัดอยู่ แต่ถ้าขับพวก CR-V มา ก็อารมณ์นั้นแหละครับ
  • มุมมองรอบคัน รถคันนี้ควรได้ 150/100 คนสูง 160 ปรับเบาะตำแหน่งนั่งสบาย มองเห็นรอบทิศ มองเห็นแม้กระทั่งฝากระโปรงหน้า กระจกออกแบบมาดีมากๆ ให้ความสบายในการขับและมองทาง
และที่ต้องให้ กิตติกรรมประกาศ สำหรับรถรุ่นนี้เลยคือระบบกล้องรอบคัน

ใช่ครับ “แม้แต่เดินหน้าเข้าช่องจอด มันก็มี Simulation ตัวรถให้ดูแบบจะจะ แล้วภาพตัดเองเลย เหมือนรู้ว่านี่เข้าช่องจอดอยู่” เฮ้ยนี่มันสวรรค์นักขับในเมือง ฟีเจอร์นี้แหละ ฟีเจอร์นี้แหละ!!!!!


—————-

ก่อนจบ


รถยนต์รุ่นนี้เหมาะกับใคร?
  • คนที่มอง C-HR ไว้แต่ต้น แต่ไม่ชอบความอับทึบของมัน
  • คนที่มอง CX-30 ไว้ แต่ไม่มั่นใจศูนย์และบริการมาสด้า
  • คนที่มอง HR-V ไว้ แต่ไม่มั่นใจงานประกอบและความคงทนอะไหล่/สนิม/เกียร์
  • คนที่มอง MG HS ไว้ เสียดายความสวยนิดหน่อย งบถึง แต่สุดท้ายอยากแบ็กทูเบสิก
  • คนที่มอง Altis ไว้ แต่ Wagon ไม่เข้าไทย และเริ่มอยากมีพื้นที่เก็บของลูกน้อยเพิ่ม
  • พ่อบ้านที่ไม่จำเป็นต้องลุยป่า และไม่บ้าออพชั่นไว้แข่งทางโบรชัวร์กับชาวบ้าน
  • แม่บ้านสายชอปปิ้งและขนเพื่อนๆ ไปเดินตลาดนัดพร้อมแวะทานข้าวเที่ยง
  • ชาว Netizens ทั้งหลาย ที่ไม่ได้ต้องการฟีเจอร์ เครื่องเสียง และการตกแต่งที่หรูหรา โดยเฉพาะชอบเดินทางด้วยการขับรถเองระยะไกล-กลาง แบบสบายๆ ไม่รีบร้อน 
  • คุณพ่อคุณแม่ หรือผู้สูงอายุที่นั่งรถเตี้ย เช่น ซีดานทั่วไป อีโคคาร์ ไม่สะดวก ขึ้นลงเริ่มปวดหลัง อยากขับรถเอง อยากได้รถขับง่ายที่ไว้ใจได้ 1 คัน

ไม่เหมาะสำหรับใคร?
  • สายแต่งรถ พอเถอะลูกพี่ รถรุ่นนี้นอกจากแร็พสีกับแต่งแม็กแล้ว มันแต่งไม่ขึ้นเท่าไหร่ ทรงมันเรียบๆ
  • สายซิ่ง ไป Kicks หรือพวก Downsizing-Turbo ครับ รถคันนี้ไม่ได้แรงอะไรเป็นพิเศษ
  • สายออพชั่น เชิญจอดที่ CX-30, MG ZS หรือ HR-V ตามศรัทธาว่าท่านเน้นอะไร
  • สายลุยป่า รถคันนี้เป็นพื้นฐานเก๋งครับ ไม่ใช่พื้นฐานกระบะ อันนี้แนะนำกระบะขับสี่หรือ PPV จะเหมาะกว่า หรืออย่างน้อยมองๆ Subaru XV/Forester ไว้เป็นทางเลือกสำรองนะ
  • สายแบก บรรทุกเยอะก็ไม่เหมาะ ด้วยพื้นฐานรถ ไม่ควรโหลดเกิน 400 ก.ก. โดยไม่จำเป็น ไปสาย PPV/MPV ฐานกระบะเช่นกัน
  • สายที่จอดรถแคบ รถคันนี้กว้างและยาวเอาเรื่อง ไปอีโคคาร์แฮทช์แบ็กเถอะครับ
  • สายเจ็ดที่นั่ง ไป Xpander, Ertiga หรือแม้แต่ Sienta เถอะครับพี่น้อง
  • สายบ้าสเป็กบนกระดาษ รถรุ่นนี้กินไม่ขาดสักรุ่นครับ ช่วงล่างก็คานบิด เบรกโฮลด์ก็ไม่มี ครูซคอนโทรลก็ไม่ถึงศูนย์ ยางอะไหล่ก็ไม่มี แถมเผลอๆ จะไม่มีคานกันชนท้าย (? หรือเปล่า ยังไม่ได้พิสูจน์) ซึ่งอันหลังเนี่ย เดี๋ยวร้านแถวพัฒนาการเจ้าประจำแอดแมวเขาก็ทำมาเองแหละ 😛
ดังนั้น Corolla Cross เข้ากันได้กับ 80% ของประชากรผู้ใช้รถงบ 1 ล้านบาทของประเทศไทย นั่นแหละครับ
รถรุ่นนี้มันมีความขาดเกินและกั๊กออพชั่นบางประการที่ Toyota ทำเป็นปกติ แต่ก็ให้ความพอดิบพอดีในการใช้งานชีวิตประจำวันของเกือบทุกคนบนโลก แอดแมวตัวเท่าหมีก็ยังนั่งได้ อัตราเร่งพอมีพอกิน แต่ก็ไม่ได้แรงขนาดไล่แซงกระบะดันรางได้ ลุยได้ก็ไม่สุด ขนคนได้ก็ไม่เต็มที่ เอ๊ะ ออพชั่นหาย บลาๆๆๆ
ประเด็นคือมัน “พอดี” กับหลายคน และแม้กระทั่ง ผบ.ทบ. และคุณพ่อแอดแมวก็ยังเอ่ยปากว่า “สวย”

8.5/10

แต่ Nobody’s Perfect ไม่งั้นเราคงมีคู่ครองคนเดียวกันทั้งโลก ดังนั้น Corolla Cross คือ รถที่คุณไม่ควรพลาด ควรได้ลองก่อนซื้อตัวอื่นในงบประมาณเดียวกัน ถึงแม้จะมีทุกอย่างกลางๆ ไม่สุดสักทาง แต่ก็มีความเป็นโตโยต้าและประกัน 5 ปี 150,000 กม. จากศูนย์ (แบต 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)
และคุณก็อาจจะ “พอดี” กับมันเหมือนกัน ดังนั้น ไปทดลองขับเถอะครับ 🙂 
ขอขอบคุณ คุณป้อมเพชร และคุณยศศักดิ์ สาริบุตร เจ้าของโชว์รูมโตโยต้าเขาใหญ่ และทีมเซลส์ที่เอื้อเฟื้อให้ข้อมูลตลอดการทดลองและโดดขึ้นโดดลง 3 ชม. เมื่อวาน สนใจติดต่อทดลองขับ และอื่นๆ ได้ที่ 044311312 ทุกวันจันทร์ถึงเสาร์ครับ
สงวนลิขสิทธิ์ ทั้งข้อมูลและภาพโดยทีมงานเพจถูกเสมอและ www.cheaplost.com สามารถแชร์เผยแพร่ได้ แต่หากต้องการใช้ข้อมูลหรือข้อความใด โปรดแจ้งทีมงานเพื่อขออนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรครับ
19 กรกฎาคม 2563
About Author

Catmin

แอดแมว(เมา) ผู้หลงใหลการอ่านตำรา Tribology และเสพ Excel เป็นอาหารเย็น

1 Comment

  • ที่ดันหลังก้อม่ายมี … เดินทางไกล จะรอดการเจ็บหลังมั้ยเนี่ย

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *