รีวิว – Crucial P1 500GB SSD QLC นักซิ่งสายประหยัดคุ้มเกินราคา

รีวิวนี้แอดมินของออกตัวขอบคุณอย่างยิ่งกับร้าน Invade IT สนับสนุนและส่ง SSD Crucial P1 รุ่นใหม่ล่าสุดของ Crucial มาให้แอดมินได้ทำการเล่นและทดสอบอย่างกรีดร้อนลั่นห้อง @#%!@% ว๊ากกกกูคิดถูกที่ขอมาลอง — (To Invade IT , We are very Thanks for support us and send Crucial P1 500 GB for test and product review. Is grade SSD for Gamers.)

ทำไม่ต้องบอกขนาดนี้เพราะเจ้าตัว Crucial P1 นั้นนับได้ว่าเป็น SSD QLC รุ่นแรกของทาง Crucial ที่ออกสู่ตลาดเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมาและบ้านเรายังไม่มีใครทำการทดสอบจริงจังหรือรีวิวให้ชมกันซึ่งนั้นเป็นเหตุผลว่า……. “กูต้องป้ายยาตัวนี้ให้ได้” เพราะแอดมิน กับ แอดแมวมองกันแล้วว่าตัว Crucial P1 มันจะตูม ๆ ในแง่ราคาต่อประสิทธิภาพความแรงที่เกินคุ้มอย่างแน่นอน

และมันก็ลดราคาลงมาจากช่วงปีก่อนๆ เป็นอย่างมากด้วยจึงเป็นที่มาแบบทำนายดั่งหมอดูตาทิพย์ ว่าไอตัว Crucial P1 มันต้องมีอะไรดีแน่ๆ ขนาดเว็บสำนักรีวิวด้าน PC Hardware หลายสำนักยกให้เป็น SSD NVME ที่คุ้มค่าสุดๆ ต่อการลงทุนโดยเฉพาะกลุ่ม Gamer กับ Consumer ทั่วไปที่กำลังอัพเกรดหรือประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ตัวใหม่ ซึ่งทางแอดมินได้ทำการเทสในระดับพื้นฐานทั่วไปในการใช้งาน รวมไปถึง Workload Real World Test ใช้งานจริง ทั้งงานเกม งานตัดต่อ Clip Video

Crucial P1 Specifications

สำหรับรุ่นที่แอดมินได้มาจากร้าน Invade IT จะเป็นรุ่นความจุ 500GB ซึ่งถ้าดูค่าความเร็ว Read /Write จะเห็นได้ชัดเจนว่าน้อยกว่าความจุ 1TB อยู่นิดหน่อยในความเร็วการอ่านแต่สำหรับเขียนแล้วถ้าให้คุ้มจริงคงต้องเป็นขนาดความจุ 1TB

ก่อนรู้จัก Crucial P1 มารู้จักเทคโนโลยี QLC NAND Flash กันสักนิด

QLC NAND Flash ถ้าจะบอกว่านับเป็นยุคที่ 4 ของ SSD (Generation 4) ของ SSD ก็คงไม่ผิดอะไรเพราะตั้งแต่ SSD เกิดมาบนโลกนี้การพัฒนาตัว SSD เริ่มต้นที่เทคโนโลยี SLC แบบ 1 Bits Per Cell (Single Layer Cell) พัฒนามาเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบันเป็นแบบ QLC (Quad Layer Cell) 4 Bits Per Cell ซึ่งเป็น NAND Flash เทคโนโลยีที่ออกมาเพื่อพลักดันให้ตลาด SSD NAND Chip มีราคาประหยัดลงแต่ คุณภาพการอ่านเขียนตอบโจทย์ในระดับ Consumer หรือระดับ Enterprise ซึ่งเป็นจุดเด่นหลักของเทคโนโลยี QLC SSD แต่ข้อเสียของ QLC SSD คืออายุการใช้งานที่สั้นกว่าแบบ MLC , TLC 3D

ถ้าให้นิยามความแรงของ QLC SSD แบบเข้าใจง่ายจากแอดมินเองนะคงต้องตามนี้

“แรงราคาประหยัด จับต้องง่าย สายเกมส์ซิ่ง คอนซูมเมอร์ยิ้ม ฮิ้วๆ”

ข้อดีประโยชน์จาก QLC

QLC NAND Technolgy มีความเร็วที่เร็วกว่า Harddisk Desktop 7,200 รอบ ถึง 10 เท่า อ้างอิง https://www.micron.com/-/media/client/global/documents/products/technical-marketing-brief/qlc_technology_high-level_tech_brief.pdf?la=en

คงเป็นเรื่องของด้านเทคเทคที่ Micron ระบุไว้ว่าในหนึ่งหน่วยพื้นที่จัดเก็บบน Cell ของ Chip ถ้าเป็นแบบตัว QLC Chip มันจะมีอัตราการจับเก็บต่อพื้นที่ได้เยอะกว่าละเอียดกว่าโดยจะเน้นงานสำหรับการอ่านข้อมูลแบบต่อเนื่องและสม่ำเสมอกว่าแบบ TLC Chip

อ้างอิง : https://www.micron.com/-/media/client/global/documents/products/product-flyer/qlc_technology_flyer.pdf?la=en

ถ้าแบบนี้ต้องบอกเพิ่มอีกหน่อยว่า ตัว TLC Chip นั้นดูเหมาะกับงานอ่านและเขียนได้ดีกว่า QLC ครับดังนั้นแอดมินจึงมองแล้วว่า QLC Chip ที่ออกมาสู่ตลาดน่าจะตอบโจทย์กับกลุ่ม Gamer และผู้ใช้ Consumer ทั่วไปที่ไม่ได้เน้นงานการเขียนข้อมูลลง Disk ตลอดเวลา แต่เน้นเรื่องการอ่านการโหลดข้อมูล เช่นการโหลดการเข้าเกม เปิดฉากเปิดด่านในเกม หรือประเภทที่ต้องการความเร็วในการโหลดข้อมูลระบดับกลาง ๆ นี่ดูเหมือนจะเหมาะสุด ๆ

ส่วน TLC 3D Chip ที่นิยมกันอยู่แบบวงกว้างในปัจจุบันนั้นค่อนข้างครอบคลุมกว่า QLC ที่จะเหมาะกับผู้ใช้ทั้งการอ่าน / เขียน ข้อมูลตลอดเวลาไปพร้อม ๆ กันเช่นการตัดต่อ Video หรืองานแต่งภาพที่เป็นแบบงานหนัก ดังนั้นแอดมินจึงคิดว่าตัว TLC NAND Flash น่าจะเบี่ยงเหมาะกับการใช้งานหลากหลายแบบจ่ายทีเดียวเจ็บจบแต่… อย่าลืมนะ TLC NAND Flash ในตลาดมีหลากยี่ห้อผู้ผลิตมาก แต่ QLC ยังมีไม่เยอะดังนั้นตอนนี้ยังพอเลือกได้อยู่ว่าจะเอา Micron / Samsung ที่เป็นผู้ผลิต QLC Chip NAND อันดับต้น ๆ

รู้จักกับ Crucial กันสักนิด

สำหรับ Crucial เอาที่จริงถ้าในตลาดบ้านเราน้อยคนจะรู้จัก แต่สำหรับแอดมินกับแอดแมวรู้จักกันมานาน ซึ่งถ้าแอดมินจะบอกกับคนอ่านว่าถ้าคุณรู้จัก Micron ที่ผลิตแรมหรือช่วงที่บิทคอยด์บูม เวลาหาการ์ดจอถ้าไม่ได้แรม Samsung ตัวรองมาคือ Micron นั้นเอง อีกข้อ Crucial เป็นยี่ห้อลูกของ Micron อีกทีนึงซึ่งจะคอยออกผลิตภัณฑ์ในระดับตลาดทั่วไป (Consumer Product) ที่ผู้ใช้ทั่วไปสามารถสั่งซื้อได้ตามร้านทั่วไป

โดยใช้ Chip ของบริษัทแม่อย่าง Micron นั้นเอง ซึ่ง Crucial จะมีผลิตภัณฑ์ทั้ง Ram / Storage ประเภท Flash Memory, SSD ให้เลือกซื้อได้ง่ายนั้นเอง ส่วนในประเทศไทยจะมี 2 Distrubutor ที่นำเข้ามาขายและเป็นตัวแทนจำหน่ายคือ Legend Thailand และ Ingram Micro ประเทศไทย

Crucial P1 SSD 500GB Unbox

ตัว Crucial P1 SSD เป็น SSD แบบ M.2 NVME Gen.3 X4 2280 ขนาดมาตรฐานที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน

ด้านหน้าตัว Crucial P1 SSD 500GB

ด้านหลังของตัว Crucial P1 SSD 500GB

ด้านหลังของกล่อง Crucial P1 SSD 500GB – แอดมินขอบอกอย่างนึงในเรื่องประกัน ตัว Crucial P1 SSD นี่การรับประกันอยู่ที่ 5 ปี ดังนั้นถ้ามองในแง่การใช้งานระยะยาวตามประกัน ด้วยความกังวลของผู้ใช้ที่ตัว SSD NAND เป็น QLC ตามที่เราเข้าใจกันคืออายุการใช้งานจะสั้น แต่ถ้าเราใช้งานทั่วไปเช่นเล่นเกม ตัดต่อ Video คลิปสั้น ๆ ไม่ได้เป็นงานหนักมาก หรือเปิดเครื่องแบบ 24×7 โอกาสที่จะอายุการใช้งานสั้นลงก็สามารถยืดให้ยาวได้อีกครับ

แต่อย่าลืมครับว่า QLC NAND มันจะมีเกรดสำหรับงาน Enterprise สำหรับฝั่ง Server อยู่ด้วยแต่ตรงนี้แอดมินจะขอข้ามไปเพราะไม่ได้ต้องการโฟกัสและเพื่อให้ตรงกับตัวของที่ได้รับมาเขียนถึงได้อย่างชัดเจนรวบรัดที่สุด เราไปดูผลเทสต่าง ๆ กันว่าประสิทธิภาพการใช้งาน Crucial P1 SSD 500GB จะให้ประสิทธิภาพเต็มและคุ้มค่ากับเงินที่เราจ่ายในตอนนี้ที่ 2,790 บาท ได้อย่างไรบ้าง เห็นแล้วอยากเสียตังค์กันหรือยังสำหรับความคุ้มที่เกิดนี้

ผลเทสต่าง ๆ

ผลทดสอบก่อน Clone OS Windows

ทดสอบโดยใช้ AIDA64 Read Test Suite / Crystal Disk ผลที่ได้ค่อนข้างตรงกับ Spec ที่ได้ ส่วน Spec เครื่องที่ใช้ทดสอบ AMD System : Ryzen 7 2700 + ASRock Fatal1ty K4 Gaming X470

PCMARK 8 Storage Test Work Load ได้ตามป้ายอยู่ที่ 4978 คะแนน

โดย ช่วง Bandwidth อยู่ที่ 334.88MB/s

Real World Copy Read / Write

ทดสอบ Copy File จาก SSD SATA 3 ADATA SP550 to Crucial P1 SSD สามารถทำความเร็วได้ราว ๆ 380 MB/s

ทดสอบ Copy File จาก WD Black SSD 2018 โดยใช้ ISO File สามารถเขียนไฟล์บน SSD Crucial P1 SSD ได้ราว 700 MB/s ใกล้เคียงความเร็วของ Spec Crucial P1 ที่ Write Speed @ 950 MB/s ซึ่งถ้าจะตกไปบ้างก็มาจากการที่ WD Black SSD ถูกสลับไปอยู่บน Slot M.2 SATA ธรรมดาของตัวเมนบอร์ด

Real World Program Test

Video Editing – Adobe Premiere

เอาจริง ๆ หลายคนอาจจะเข้าใจผิดว่าการมี SSD ทำให้ตัดงานไวขึ้นแต่อาจจะไม่ใช่อย่างที่คิด ซึ่งแอดมินได้ทำการวาง Source File และทำ Output File ถ้าตัดใน Video Premiere ส่วนใหญ่ช่วงจังหวะที่สำคัญตอน Output File (Writing) คือช่วงรวมไฟล์แอดมินต้องบอกว่าตอนเขียนไฟล์สามารถเขียนได้แบบแว่บนึงพุ่งไปที่ความเร็วเกือบเต็มที่ 900MB/s โดยประมาณ แต่จับภาพไม่ทันคือแว่บหาย ในช่วงเทสนี้แอดมินได้เอาตัว Crucial P1 เป็นตัวเก็บข้อมูล Source File Video นะยังไม่ได้ทำเป็น OS Windows ครับ

หลังทำการ Clone Windows

สำหรับคนที่ต้องการอัพเกรดจาก Harddisk หรือ SSD ตัวอื่นๆ แอดมินแนะนำใช้โปรแกรม AOMEI Backupper Standard ซึ่งรองรับการ Clone Disk และสามารถทำ Align Partition สำหรับ SSD ได้ในตัว
โดยแอดมินทำการ Clone ข้อมูลเดิมจาก WD Black SSD 2018 NVME ความจุขนาด 256GB มาอีกทีนึง ซึ่งวิธีนี้ทำให้เราประหยัดเวลาเป็นอย่างมากในการที่จะอัพเกรดเครื่อง ยกเว้นคนที่ต้องประกอบเครื่องใหม่หรือต้องการลง Windows ใหม่ก็จะเป็นอีกเรื่องนึง

ผลทดสอบที่ได้หลังจากทำการ Clone Windows

ผลทดสอบเอาแบบรวดเร็วให้เห็นความชัดเจน เพราะขนาดข้อมูลที่ ครึ่งๆ ของ SSD จาก WD Black SSD 2018 NVME ความจุขนาด 256GB ทำให้เหลือพื้นที่อีกราว 176GB (คิดเป็น 38% ของพื้นที่ที่เหลือใน Crucial P1) ความเร็วที่ได้ไม่ตก และถ้าใช้ Boot Windows เปิดเครื่องปิดเครื่องแถบไม่รู้สึกต่างจากการใช้งาน WD Black SSD 2018 NVME ความจุขนาด 256GB ที่มีความเร็วในการอ่านเขียนมากกว่า Crucial P1 เลย

Gaming Test Workload – หลัง Clone Windows เสร็จ

สำหรับการเทสอีกอย่างที่แอดมินคิดว่าน่าจะจำเป็นที่ไม่น่าจะมองข้ามได้คือการลองเทส Write Speed โดยดาวน์โหลดเกมจาก Steam มาติดตั้งผลที่ได้จะอยู่ราว 240 MB/s โดยทำการเขียนแบบนี้อยู่เกือบตลอดจนกว่าเกมขนาด 38.4GB จะเสร็จแต่ความเร็วในการเขียนอาจจะมีร่วงลงไปบ้าง ถือว่าเป็นเรื่องปกติครับ

หลังติดตั้งเกมเสร็จทดสอบเปิดเล่นเกมดูช่วง Work Load เช่นโหลดเข้าตัวฉากในเกมจะอยู่ราว ๆ 90 MB/s แอดมินคิดว่าแล้วแต่เกมด้วยเพราะข้อมูลเกมแต่ล่ะเกมต่างกัน อันนี้ยกเป็นตัวอย่างมาให้ดู

ข้อคิดสำหรับคนใส่กับ Mainboard ที่มีแค่ช่องเสียบ M.2 ที่ไม่ใช่ Ultra M.2 Gen.3 X4

อันนี้จะมีกลุ่มผู้ใช้อยู่กลุ่มนึงที่อยากได้ SSD ความจุเยอะหน่อยแต่เมนบอร์ดของตัวเองที่ใช้งานอยู่มีเพียง Slot M.2 SATA เท่านั้น แอดมินอยากบอกว่าบ้างรุ่นอาจจะเอาตัว SSD NVME M.2 Gen.3 x4 มาใช้งานได้นะแต่อยากให้เช็คกับผู้ผลิตให้ดีให้ชัวร์ก่อน ซึ่งถ้ามันใช้งานได้ก็เท่ากับคุ้มกว่าการซื้อ SSD M.2 SATA3 ปกติมาเสียบอยู่ไม่น้อยเพราะเราจะได้ SSD ที่อ่านเขียนไวกว่าแบบ M.2 SATA3 อย่างแน่นอน

ตัวอย่างเช่น

ผลเทสโดยเอาตัว Crucial P1 500GB ตัวนี้ใส่ติดตั้งลงใน Slot M.2 SATA ธรรมดาซึ่งส่วนใหญ่พวกกลุ่ม SSD M.2 SATA ธรรมดาความเร็วในการอ่านเขียนจะไม่เกิน 500MB/s อย่างแน่นอน แล้วพอเป็น Crucial P1 ที่ราคาตอนนี้อยู่ที่ 2,790 บาท สำหรับ 500GB / 1TB อยู่ที่ 5,150 บาท หรืออาจจะถูกกว่านี้แล้วแต่ว่าจะเจอร้านไหนถูกกว่าร้าน Invade IT ก็สามารถซื้อได้ตามสะดวกครับ

อุณหภูมิในการทำงาน Crucial P1 500GB

ความร้อนแอดมินว่าหายห่วงนะถ้า Idle จะอยู่ที่ ราว 30-40 องศา ส่วน Full Load อยู่ที่ 48 องศา ในห้องแอร์ 24 องศา สบายๆ ครับ

สรุปโดยรวม

Crucial P1 SSD ตามที่แอดมินกับแอดแมวมองไว้ตั้งแต่แรกๆ ว่ามันต้องใช่มันต้องไวและคุ้มไม่แพงก็น่าจะจริงตามผลทดสอบนี้ โดยประสิทธิภาพที่ได้ตอบโจทย์การใช้งานต่างๆ ขั้นพื้นฐานปัจจุบันได้ดีเลยทีเดียวโดยที่ผู้ใช้แถบไม่รู้สึกว่ามันช้านะมันอืดหน่วง แต่พอเทียบราคากับยี่ห้ออื่นในตลาดบ้านเราตอนนี้ต่อความจุแล้วล่ะก็ขอยกให้ Crucial P1 SSD คุ้มค่าต่อการลงทุนมากที่สุดแล้วถึงแม้นเราจะรู้ดีครับว่า เทคโนโลยี QLC มันมีอายุการใช้งานที่สั้นก็ตามที แต่ก็คุ้มแล้วกับ “ความเร็วต่อราคาที่จ่ายให้ได้ประสิทธิภาพกลางๆ แรงกำลังดีกลับมาสู่เครื่องคอมของเราเอง

ใครอยากโดนยาตามแอดมินก็จิ้มไปตบมาเฟี้ยว จิ้มตามนี้ไปที่ร้าน Invade IT มีให้เลือกเอาสะดวก 2 ที่นะจะผ่านเว็บ Invade IT โดยตรงหรือจะผ่าน Lazada ของร้าน Invade IT ก็ได้เช่นกัน