#LEDTV #4K #TCL55P8s

ถ้าใครจำได้ช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แอดแมว เขาลงตัว Sharp 4K TV 60 นิ้วไป


แล้ว (ไอ้) แอดแมวหลังจากมันหูแว่วโพสต์นั้น ที่เอาขาโต๊ะมาโรยใส่สเต็กร้าน Santa Fe มันก็ลากแอดมินขึ้นมาป้ายยารัวๆ ที่ร้านเดิมต่อ -_-

ชิ้ง!!!!!

เอาว่ารุ่นที่แอดเจอมันช่างเจิดจ้าซะเหลือเกินแถมราคาก็ใช้ได้น่าโดนเสียด้วย กับ TCL รุ่น 55P8S แต่ราคาก็นะ ถ้าซื้อร้าน The Future อาจจะราคาโดดไป แต่ก็เป็นราคาตลาดมาตรฐานที่ 14,990 บาท แอดเลยลองหาใน Lazada , Shopee ราคาน่าสนใจแต่ร้านนี่ไม่แน่ใจนะว่าจะบริการเป็นอย่างไร

**(การซื้อ TV หลายคนต้องการบริการที่ดี ส่งดีแพ็คเยี่ยมห่อส่งไม่แตก หรือให้ดีส่งถึงบ้านโดยร้านเองพร้อมติดตั้ง) วาร์ปไปตามนี้ เอาราคาไล่จากมาตรฐานไปถูก จากการเช็คผ่าน Shop Online

The Future > 14,990 >
Power Buy > 14,990 >
Lazada x MJ-Tech > 13,100 >
Shopee x  Thanatshops > 13,100 >

Tech Spec / Features

 

55P8S
https://www.tcl.com/hk/en/products/p8s/p8s-50.html
https://www.tcl.com/th/en/products/P8/55–4k-uhd-ai-tv—tcl-p8-series—tcl-thailand.html

P8 จะว่าเป็นซีรีส์ 2020 ที่เป็น Successor ของรุ่นกลาง (P6) ซึ่งทำตลาดในปี 2019 ที่ผ่านมาก็ได้

คือ TCL เอง จะมีซีรีส์ทอปสมัยก่อน ที่ตัวนึงเคว้งคว้างอยู่ในจักรวาลของ (ไอ้) แอดแมว คือ C2US เน้นดีไซน์ และลำโพงเทพ Harman-Kardon

ที่ได้อัพเกรดเป็น C8 ปีนี้ ใช้ลำโพง ONKYO ดีไซน์ขอบบางกว่าเดิม เสียงกระหึ่ม ชนิดว่าไม่ต้องซื้อลำโพงหรือซาวนด์บาร์แยกเลยทีเดียว !! ส่วน P ก็จะตามมาติดๆ ประมาณว่า เกรดภาพไม่ต่างกัน แต่ดีไซน์บ้านกว่า ราคาจับต้องได้ง่ายกว่านิดหนึ่งนั่นเอง

พูดง่ายๆ แบบกลับกันก็คือ: C ซื้อตัวเดียวจบครบ ส่วน P เฉพาะคนอยากได้จอ และมีอย่างอื่นครบเซ็ตแล้ว ไม่ว่าจะแอมป์ ลำโพง ฯลฯ เพราะมันมีดีที่จอภาพเป็นหลักเนาะ 🙂

มาว่ากันต่อเรื่อง P8s ครับ

จุดเด่นหลักๆ ที่ TCL – 55P8s (หรือ 50P8s สำหรับรุ่น 50 นิ้ว) นอกจากตัว Panel ที่เป็น DLED ( Direct-lit LED backlight technology ) https://ihsmarkit.com/research-analysis/direct-led-backlight-technology-reigns-supreme.html

ที่มีจุดเด่นหลักๆ คือตัว Panel ที่ผลิตออกมามีความบางกว่า LED ปกติ และการแสดงผลสีดำมืดได้สนิทกว่า edge LED กับการรองรับการแสดงผล HDR (High Dynamic Range) ได้ดีกว่าเดิม คม สีจัด แจ่มจันทร์ ฯลฯ ด้วย — แอดอธิบายคร่าวๆ ประมาณนี้ล่ะกัน ที่เหลือลองคลิกเข้าไปอ่าน link ที่อ้างอิงไว้

HDR 10+

จุดขายเด่นอีกจุดที่รุ่น 55P8s ใส่เข้ามาในทีวีรุ่นกลางนี้ ก็คือเทคโนโลยี HDR 10+ นั้นหมายถึงว่าค่าสีที่ได้จะกว้างและสูงกว่า HDR ปกติ มาเป็น 10 Bit

ถ้าถามว่าตอนนี้จำเป็นต้องเขยิบไป HDR 10+ แล้วหรือยัง? ตอบว่าอาจจะยังไม่จำเป็น 100% ขึ้นอยู่กับเราว่าต้องการไม่ต้องการ

เหตุผลนึงคือเรื่องการ Support จากบริการ Platform Movie Streaming รายใหญ่ดังๆ เช่น Netflix ยังคงอ้างอิงการรองรับ HDR ปกติอยู่ แต่ถ้าคิดว่าเออซื้อไปแล้วรองรับอนาคต ซื้อก่อน-ใช้ก่อน-ได้ลองก่อน ชอบโทนสีแบบนี้ก็จัดไป

เพราะไม่แน่ว่าวันใดวันนึงอาจจะมีผู้ให้บริการเช่าหนังดูหนังออนไลน์ปรับระบบเป็นการยิงภาพ HDR 10+ เข้ามาก็แหล่มเลย แต่เอาจริงๆ ถ้านึกไม่ออก ใครใช้พวก Samsung Galaxy S10 , S10+ , Note 10 ,Note 10+ , Galaxy Fold ก็ประมาณนั้นแหละครับที่ใส่เทคโนโลยี HDR 10+ เข้ามาในหน้าจอ Panel ทำให้เราดูภาพพวก Video ที่รองรับโคตรสวย คือสวยมาก

ทีนี่ถ้าร้อง “อ๋อ” แล้ว ก็ลองนึกกลับมาที่ TCL 55P8s ว่าการที่มีเทคโนโลยี HDR 10+ เข้ามามันทำให้เราดูภาพที่สว่างสดใสและจุดดำมืดได้ดี ประมาณถ้าความคมของภาพที่เจอก็คือคมบาดใจเลย แต่อาจจะไม่ถึงระดับ QLED หรือ OLED TV นะ พวกนั้นคือราคากระโดดไปมาก

กลับกันมาจับ TV ที่ใช้เทค DLED บวก HDR10+ มันก็เหมือนความลงตัวอย่างนึง คือเรื่องนี้ต้องไปเจ๊อะเองที่หน้าร้านแล้วจะบอกว่าชอบไม่ชอบโทนสี ความสว่าง (แต่แอดแมวชอบ และไม่พอ มันยังพยายามจะป้ายแอดมินต่อว่า QLED QLED QLED)

Design

จุดเด่นอีกจุดคือเรื่อง Design Body แอดมองควับแรก เอ้ยชอบทรงนี้ ความชอบนี่แล้วแต่ใครแต่มันจริงๆ เน้อ

CPU / GPU

อีกข้อ CPU  ที่ TCL ใส่มาในรุ่น 55P8s เป็น Arm Cortex A55 8 Core อ้างอิง https://developer.arm.com/ip-products/processors/cortex-a/cortex-a55 และ
GPU Mali 470×3 ความเร็ว 1.1GHz ที่ไหลลื่นกว่าเดิมนิดนึง แต่ไม่ต้องเอาไปเทียบกับสมาร์ทโฟนตัว Midrange ขึ้นไปของยุคนี้นะ -_-

อ้างอิง : https://developer.arm.com/ip-products/graphics-and-multimedia/mali-gpus/mali-470-gpu

Android OS Version 9

ก็นับว่าใหม่สุด ณ ตอนนี้สำหรับในกลุ่ม LED TV ที่เป็นกึ่ง Smart TV ที่ติดตั้งมาให้ในตัวพร้อมแอป Netflix ที่สามารถ Play ภาพแบบ HDR ได้เลย https://help.netflix.com/en/node/42384

ระบบเสียง

 TCL ใส่ระบบเสียงแบบ Dolby 5.1 ก็น่าจะเพียงพอต่อความต้องการพื้นฐาน 

Verdict

จากทั้งหมดถ้าคำแนะนำจากแอดเอาจริงๆ คือตอนนี้หา LED TV HDR ปกติใช้ก่อนจะทำให้ประหยัดรายจ่ายลงได้ ดังนั้นถ้าข้ามตัวนี้ไปก็ได้เช่นกัน แต่ก็นั้นแหละเน้อ ถ้าต้องการอะไรที่ดีกว่าก็ย่อมเสียเงินเยอะขึ้นตาม ดังนั้นถ้าเอาตามแอดหากไม่รีบเราควรมารอ QLED TV ให้ราคาถูกลงจะดีกว่า

ส่วนถ้าใครจะขยับไปถึง OLED TV หากต้องการซื้อจริงๆ แบบกะว่าเมียไม่ตบ หรือหลอกเมียว่าตัวละหมื่นต้นๆ ได้แน่ๆ ก็ต้องคิดถึงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นด้วย #บัตรพัง แต่เอาสบายใจแอดมองว่า ซื้อร้านที่ไว้ใจดีจะดีกว่าต่อให้แพงกว่านิดๆ หน่อย ระยะยาวบริการดีใช้บริการเขาแล้วสบายใจไว้ก่อนดีที่สุดจริงๆ นะเออ

และที่สำคัญ การซื้อจอนี่ บางคนก็มีกรรม คือสั่งออนไลน์แล้วเจอดีเฟค ทางออกที่ดีที่สุดคือ ตามเพจ #ถูกเสมอ #เมียเผลอบัตรพัง แล้วมาดูโปรคุ้มๆ กัน รับทีร้านได้ลองก่อนนี่ ถูกสะใจพระเดชพระคุณกันไปเลยจ้า

อ้างอิงข้อมูล  HDR 10+

A) https://www.samsung.com/global/galaxy/what-is/hdr-10-plus/
B) http://www.displaymate.com/Galaxy_Note10_ShootOut_1G.htm
C) https://www.thepower.co.th/knowledge/know-hdr10/
D) https://www.digitaltrends.com/home-theater/what-is-hdr10-plus-hdr-formats/
E) https://www.cnet.com/news/what-is-hdr10/

Back to Top
Back to Top
Close Zoom
Context Menu is disabled by theme settings.